พื้นฐาน หลักการคลื่น

Elliott wave คือ หลักการในการวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานของตลาด เป็นเหมือนแผนที่นำทาง ชี้ให้เราเห็นว่าเราอยู่ตำแหน่งไหน จากบนลงด้านล่าง หรือจากด้านล่างขึ้นด้านบนเปรียบได้กับการขับรถในเมืองใหญ่ ถ้าอยากรู้ว่าเส้นทางนี้จะนำเราไปไหน เราอาจต้องขับรถไปเองตามเส้นทางจุดต่อจุดแต่ Elliott wave นั้นไม่ใช่ Elliott wave นั้นเปรียบได้กับเราขับ เฮลิคอปเตอร์ ชมเมือง เราจะเห็นถนนทุกเส้นที่มาบรรจบกันหรือแยกออก

พื้นฐานของ Elliott wave ประกอบด้วยสเต็ปการเคลื่อนที่ขึ้นและลงหรือไปด้านข้างจากจุดที่ ราคามีการเคลื่อนที่ไปจุดถึงจุดที่ราคามีการเป็นเปลี่ยนแปลงทิศทางเราจะเรียกว่า 1 คลื่น และจากจุดสิ้นของคลื่นก่อนหน้าก็จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นลูกใหม่

คลื่นสามารถถูกยืดออกหรือถูกบีบอัดได้ด้วยอัตราส่วนของเวลาและราคา แต่ที่สำคัญกว่าอัตราส่วนของเวลาและราคาคือ รูปแบบของราคา จะคงที่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง

รูปแบบห้าคลื่น

ในการรวมกันของคลื่นก่อให้เกิดการเคลื่อนที่ แต่คลื่นไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง มีการเคลื่อนที่และก็หยุดชะงักและก็ไปต่อ ก่อให้การเคลื่อนที่ในรูปแบบ ห้าคลื่นที่รูปแบบเป็นพื้นฐานของ Elliott wave โดยมีคลื่นที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันสามคลื่นคือ 1,3,5 และจะถูกขัดจังหวะด้วยคลื่น 2,4

Wave Mode

รูปแบบของคลื่นจะถูกพัฒนาใน สองรูปแบบ คือ Motive และ Corrective คลื่น Motive จะมีโครงสร้าง 5 คลื่นในขณะที่ คลื่น Corrective จะมีโครงสร้าง 3 คลื่น Motive จะขยายออกไปในทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มหลักจะถูกติดป้ายกำกับด้วยตัวเลขภายใน ประกอบไปด้วยคลื่นที่มีทิศทางเดียวกันสามคลื่น คือ 1,3,5 และสองคลื่นในทิศทางตรงกันข้ามคือ คลื่น 2,4 ส่วน Corrective คือผลกระทบที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของ Motive ก่อนหน้าจะถูกติดป้ายด้วยตัวอักษร และเคลื่อนที่ตรงกันข้ามกับทิศทางของแนวโน้มหลัก, ภายในคลื่น Corrective ประกอบ ด้วยสองคลื่นที่มีทิศทางเดียวกันคือ A, C จะถูกขัดจังหวะด้วยคลื่น B เมื่อทั้งรูปแบบ Motive และ Corrective เสร็จสมบูรณ์ ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างของระดับคลื่นที่ใหญ่กว่า ดังนั้นทั้งสอง Mode จึงมีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของพื้นฐานและบทบาท และโครงสร้าง

หนึ่งรอบที่สมบูรณ์ประกอบด้วยสองเฟสแปดคลื่น

และเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นในระดับที่ใหญ่กว่า

ซึ่งหลักการพื้นฐานนี้ให้ประโยชน์อย่างมากแก่นักวิเคราะห์ในแง่ของการระบุแนวโน้มเมื่อเราเจอรูปแบบ 5 คลื่น Motive ทำให้รู้ว่าแนวโน้มหลักของราคากำลังคลื่นที่ไปไหนทิศทางไหน บอกจุดกลับตัวภายในแนวโน้มเมื่อรูปแบบ 3 คลื่น Corrective เสร็จสมบูรณ์ราคาจะกลับตัวเข้าสู่แนวโน้มหลักอีกครั้ง

แต่เดียวก่อน คลื่น Motive ไม่จำเป็นต้องมีห้าคลื่น และ คลื่น Corrective ไม่จำเป็นต้องมีสามคลื่นเสมอไป นี้เป็นเพียงข้อกำหนดขั้นต่ำของ Motive และ Corrective ขออธิบายไว้ในส่วนของคลื่นขยายและชุดคลื่นแบบผสมอีกที, ส่วนทิศทางการเคลื่อนที่นั่น Motive ไม่ได้ชี้ขึ้นเสมอไป และ Corrective ก็ไม่ได้ชี้ลงเสมอไป การทำงานของคลื่นไม่ได้ถูกกำหนดโดยทิศทางที่แน่นอน แต่โดยหลักการแล้วจะถูกกำหนดโดย ทิศทางที่สัมพันธ์กับแนวโน้ม และคลื่นที่อยู่ล้อมรอบ ตัวอย่างเช่นหากแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น Motive wave ก็จะชี้ขึ้น หากแนวโน้มหลักเป็นขาลง Motive wave ก็จะชี้ลงเช่นกัน

โดยสรุปแนวคิดพื้นฐานก็คือ การกระทำในทิศทางเดียวกันกับแนวโน้ม มักจะเกิดขึ้นในรูปแบบ 5 คลื่น ปฏิกิริยาต่อต้านแนวโน้มมักจะเกิดขึ้นในรูปแบบ 3 คลื่น

@ElliotticianThai