การศึกษาและพัฒนาการของทฤษฎีคลื่น

Dow Theory 1851-1902

ทฤษฎี Dow ได้รับการพัฒนาโดย Charles Dow ผู้ก่อตั้ง Dow Jones Industrial Average ในปลายศตวรรษที่ 19 Dow เป็นนักข่าวการเงินและเขาใช้ประสบการณ์ของเขาเกี่ยวกับตลาดการเงินเพื่อพัฒนาทฤษฎี Dow Theory ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในชุดบทบรรณาธิการใน The Wall Street Journal ซึ่ง Dow เป็นผู้ร่วมก่อตั้งในปี 1889

ทฤษฎี Dow เป็นวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาโดย Charles Dow ผู้ก่อตั้ง Dow Jones Industrial Average ทฤษฎีนี้มีพื้นฐานมาจากแนวคิดที่ว่าตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในสามแนวโน้มที่แตกต่างกัน และแนวโน้มเหล่านี้สามารถวิเคราะห์และใช้ในการตัดสินใจลงทุนได้

ตามทฤษฎีดาว มีแนวโน้มสามประการในตลาดหุ้น: แนวโน้มหลัก แนวโน้มรอง และแนวโน้มย่อย แนวโน้มหลักคือแนวโน้มระยะยาวของตลาด ซึ่งสามารถคงอยู่ได้นานหลายปีหรือหลายทศวรรษ แนวโน้มรองคือแนวโน้มระยะสั้นที่เคลื่อนไหวสวนทางกับแนวโน้มหลักและอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน แนวโน้มย่อยคือแนวโน้มระยะสั้นที่สุด และอาจคงอยู่เพียงไม่กี่วัน

ทฤษฎีดาวยังระบุด้วยว่าตลาดประกอบด้วยการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันสามประเภท: แนวโน้ม การปรับฐาน และการแกว่ง แนวโน้มคือทิศทางโดยรวมของตลาด การปรับฐานเป็นการเคลื่อนไหวชั่วคราวสวนทางกับแนวโน้ม และการแกว่งเป็นการเคลื่อนไหวระยะสั้นภายในแนวโน้ม

Elliott Wave 1938

ทฤษฎีคลื่นเอลเลียตเป็นวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการทำนายแนวโน้มและพฤติกรรมของตลาด ได้รับการพัฒนาโดย Ralph Nelson Elliott ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และมีพื้นฐานมาจากแนวคิดที่ว่าราคาในตลาดเคลื่อนไหวในรูปแบบที่คาดเดาได้ ทฤษฎีนี้เสนอว่าแนวโน้มของตลาดเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักร โดยแต่ละรอบประกอบด้วยคลื่นห้าลูกในทิศทางของเทรนด์ และคลื่นสามลูกที่สวนทางกับเทรนด์ คลื่นทั้งห้าถูกระบุว่าเป็น "1", "2", "3", "4" และ "5" ในขณะที่คลื่นทั้งสามที่สวนทางกับแนวโน้มจะมีป้ายกำกับว่า "A", "B" และ "C" ผู้ค้าใช้ทฤษฎีคลื่นเอลเลียตเพื่อระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของตลาด และเพื่อคาดการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาดในอนาคต และได้เริ่มเผยแพร่ในปี 1938

ทฤษฎีคลื่นเอลเลียต ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจาก Dow Theory คุณ Elliott ได้กล่าวไว้ในจดหมายที่เขียนถึง Charles Conlin ว่า ทฤษฎ๊คลื่นที่เขาค้นพบ เป็นการวิจัยต่อยอดที่สำคัญซึ่งทำให้ Dow Theory มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

Elliott Wave Supplement 1953

หลังจากการเสียชีวิตของคุณ Elliott ทฤษฎีคลื่นก็ไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก จนกระทั่งปี 1953 A. Hamilton Bolton ได้นำเอาทฤษฎีคลื่นมาเผยแพร่อีกครั้งในหัวข้อ Elliott wave Supplement และตีพิมพ์การวิเคราะห์ Elliott wave เป็นส่วนหนึ่งในบทวิเคราะห์รายปีของเขาในชื่อว่า "Bank Credit Analyst" ต่อเนื่องยาวนานกว่า 14 ปี

Elliott Wave Principle 1978

ปี 1978 A.J. Frost และ Robert Prechter ได้รวบรวมเนื้อหาความรู้ที่มีอยู่ในบทความของ Elliott wave Supplement มาศึกษามาวิจัยต่อยอดร่วมกันโดยรักษาแนวทางดั้งเดิมของทฤษฎีคลื่น ของคุณเอลเลียตไว้มากที่สุด และได้ตีพิมพ์หนังสือในชื่อ "Elliott wave Principle" ต่อมา คุณ Robert Prechter ได้ใช้ หลักการคลื่นในการแข่งขัน US Trading Championship ในปี 1984 ชนะการแข่งขัน ด้วยผลตอบแทนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 444% ทำให้ Elliott wave ถูกพูดถึงในวงกว้างมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้ง Elliott wave International ที่ให้บริการวิเคราะห์ เผยแพร่ อบรม ทดสอบ ออกใบรับรอง เพื่อให้นักวิเคราะห์ทฤษฎีคลื่นมีมาตรฐานเดียวกัน จนถึงปัจจบัน https://www.elliottwave.com/

Mastering Elliott Wave 1990

Glenn Neely เริ่มศึกษาาเกี่ยวกับหลักการ Elliott Wave ในปี 1982 และรู้สึกทึ่งกับความหมายของมัน ทฤษฎีคลื่นดึงดูดจินตนาการของเขา! ตั้งแต่นั้นมา เขาได้อุทิศอาชีพของเขาให้กับการศึกษาค้นคว้า Elliott Wave Glenn Neely ได้ลงทุนหลายปีในการสอนและปรับปรุงทฤษฎี Elliott Wave เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ใช้งานได้จริง มีเหตุผล และเชื่อถือได้ ความพยายามเหล่านี้ทำให้เกิดทฤษฎีและเทคนิคที่เรียกว่า NEO Wave ซึ่งเป็นการประเมินโครงสร้างตลาดทีละขั้น ซึ่งนำไปสู่ความซับซ้อน และรูปแบบคลื่นที่หลากหลายมากยื่งขึ้นและออกห่างจากแนวทางดั้งเดิมของทฤษฎีคลื่นไปค่อนข้างเยอะในปี 1990 เขาเผยแพร่เทคนิคขั้นสูงของเขาใน Mastering Elliott Wave และเป็นผู้ก่อตัง Neowave institute

https://www.neowave.com/

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายท่านที่นำเอาทฤษฎ๊คลื่นมากศึกษามาต่อยอด แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างหรือถูกพูดถึงมากนัก ผมจึงไม่ได้กล่าวถึง

สรุปแล้วทฤษฎี Elliott Wave ถูกใช้โดยเทรดเดอร์มานานหลายทศวรรษและยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้ในการทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต และสามารถใช้ระบุโอกาสในการซื้อและขาย อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรทราบว่าการใช้งานทฤษฎี Elliott Wave ทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ทักษะความรู้และการปฏิบัติตามกฎอย่างอย่างเคร่งครัดของนักวิเคราะห์ แม้ว่าจะไม่มีการรับประกันว่าการทำนาย Elliott Wave ใด ๆ จะถูกต้อง 100% แต่กาลเวลาได้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกว่า 9 ทศวรรษ ถึงการมีอยู่ของ หลักการคลื่น ตราบเท่าที่มวลชนยังมีส่วนร่วมกับกิจกรรมนั้นๆ

ส่วนเนื้อหาบทความตอนหน้าเราจะมาทำความเข้าใจ Elliottwave ให้มากหยิ่งขึ้น ซึ่งหลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับหนังสือทั้งสองเล่มนี้อยู่

ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในแง่ของเนื้อหาแนวคิด กฎและแนวทางการนับ ติดตามในบทความหน้านะครับ

Kittiampon Somboonsod, CEWA